สมาชิกใหม่ของบ้านตรงข้ามชื่อเด็กชายฟลุ๊ก อายุประมาณ4ขวบ พ่อสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน แล้วพ่อก็เดินออกไปขึ้นรถที่บรรทุกคนงานเต็มกระบะ เด็กน้อยวิ่งตามออกมา แล้วแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคนงาน รถออกไปได้ไม่ไกลความลับก็แตก พ่อขับรถกลับมา อุ้มลูกชายกลับเข้าในบ้าน อบรมสั่งสอนแล้วก็ขับรถออกไป
ฟลุ๊กเปิดประตูรั้วแล้ววิ่งตามรถพ่อ ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่รถพ่อไปไกลจนลับตาแล้ว อีกครู่ใหญ่รถของพ่อฟลุ๊กก็กลับมาอีก พ่ออุ้มลูกชายลงจากรถดุด่าเอ็ดตะโร กลบเสียงร้องไห้ของเด็กน้อย แล้วพ่อ...ก็จากฟลุ๊กไป ทิ้งให้เด็กน้อยอยู่ในบ้านคนเดียว นานๆจะได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ สลับกับเสียงตะโกนร้องเรียกพ่อ...ตามมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
หัวใจของเด็กน้อยจะอ้างว้างและว้าเหว่เพียงใดในยามนี้ หากว่าพ่อจะยอมเสียสละความคล่องตัวในการทำงานบ้าง ด้วยการพาลูกไปด้วย ให้ลูกได้ใกล้ชิด ได้สัมผัสถึงความรัก ความอบอุ่น ในยามที่ลูกต้องการการเยียวยาเช่นนี้
ครั้งหนึ่งในวัยเด็กเช่นฟลุ๊ก ฉันเคยวิ่งตามอาเจ็ก(พ่อ) ที่กำลังรอขึ้นรถไฟไปกรุงเทพ ด้วยสภาพเด็กหญิงเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ไม่ได้ใส่รองเท้า นุ่งผ้าถุงเก่าๆ เสื้อคอกระเช้าเก่าๆตัวโคร่งๆ
ทันทีที่อาเจ็กหันกลับมาเห็น ในขณะที่รถไฟกำลังแล่นเข้าเทียบชานชาลา อาเจ็กคว้าตัวฉันยึดไว้แน่นด้วยมือที่แข็งแรงของท่าน ละล้าละลังชั่วอึดใจแล้วก็ตัดสินใจ อุ้มฉันขึ้นรถไฟไปด้วยกันกับท่าน
ความตื่นเต้น ดีใจ อุ่นใจในความปลอดภัยที่ได้อยู่ใกล้อาเจ็ก ท่านพาฉันไปในทุกที่ ที่ท่านต้องไปติดต่อสั่งซื้อสินค้าอย่างไม่อายใคร แม้ผู้คนจะมีท่าทีขบขันแกมสมเพศ ที่แม้เด็ก4ขวบอย่างฉันก็ยังรับรู้ได้ แต่อาเจ็กกลับพาฉันไปเดินเที่ยวชมโปสเตอร์หน้าโรงหนังอย่างมีความสุข ร่วมไปกับผู้คนที่แต่งกายทันสมัยสวยงาม พาไปกินอาหารอร่อยๆ พาเดินชี้ชมความหรูทั้งหลาย ที่เด็กบางเขนไม่เคยได้เห็น
ความทรงจำที่ยังประทับอยู่ในจิตใต้สำนึก สัมผัสรับรู้ได้ถึงเมตตา,กรุณา,มุทิตา,และอุเบกขาจากท่าน ก่อให้เกิดเป็นความมั่นคงในจิตใจ เติมเต็มความอิ่มใจ สุขใจ จนกลายเป็นพลังใจ ที่พร้อมจะเผื่อแผ่ความสุขใดๆให้กับครอบครัว และสังคมได้อย่างไม่จบสิ้น
ความดีทั้งหลายที่ฉันได้ทำแล้ว กำลังทำอยู่ และที่จะทำต่อไป ขอให้อาเจ็กได้รับอานิสงค์ของบุญกุศลนั้นๆด้วยเทอญ
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557
พระพรหมของลูก
อึ่งอ่าง
อึ่งอ่างบนกำแพงรั้วสูงเมตรครึ่ง มันขึ้นไปได้อย่างไร และแล้วมันก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีใครพามันขึ้นไปด้วยการ กระโดดลงมาบนโต๊ะสนามอย่างนุ่มนวล เกาะหนึบ เป้าหมายต่อไปคือ กระโดดลงไปที่เก้าอี้ แล้วลงต่อไปตามโขดหินน้ำตก จนถึงพื้นดินอย่างมีลำดับขั้น
สัตว์เดรัจฉานครึ่งบกครึ่งน้ำตัวเล็กกว่ากำปั้น ทว่า มันฉลาดเกินคาดคิด
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ชีวิตคู่
ชีวิตคู่....
คือการก้าว เข้าสู่ สนามรบ
ฉันได้พบ โจรร้าย ใจวิปริต
จ้องผลาญพร่า มุ่งร้าย หมายชีวิต
หาความผิด โยนใส่ ใจหมองมัว
....ชีวิตคู่ ควรมุ่งสู่ คู่ชีวิต
ประสานจิต คิดสร้างสรร ฝันสวยหรู
ช่วยเติมเต็ม ให้แก่กัน ด้วยเอ็นดู
ชีวิตคู่ จะยืนยง คงนิรันดร์
แต่....
เขามิใช่ คู่คิด หรือมิตรแท้
เขามุ่งแต่ เข่นพิฆาต ประหลาดหนอ
ชีวิตคู่ ที่ปวดร้าว ยาวนานพอ
แล้วจะต่อ ความชอกช้ำ อีกทำไม.
อวยพร
จงมีจิต เข้มแข็ง และแกร่งกล้า
ตำแหน่งเล่า ก้าวหน้า อย่างเร็วรี่
กัลยาณมิตร ถ้วนทั่ว สังคมดี
สุขภาพนี้ มีผลบุญ หนุนเนื่องเทอญ
ชีวิตฉัน
ชีวิตฉัน ผ่านพ้นมา ณ.วันนี้
จะกี่ปี ก็ยังมี ความหวาดหวั่น
ด้วยหัวใจ มันสลาย ไปก่อนนั้น
หนทางตัน สิทธิ์ไม่มี ที่เลือกเดิน
เป็นคนดี คือหน้าที่ ที่ฉันผูก
หวังเป็นลูก มีคุณค่า น่าฉงน
กับเงื่อนไข ที่ว่า บ้านเราจน
จึ่งต้องทน ก้มหน้า เย็บผ้าไป
ความสุขนั้น ย่อมหาได้ ในหน้าที่
สุขที่มี ความสำเร็จ เป็นปฐม
สุขได้ให้ สุขได้มี คนนิยม
ได้ชื่นชม ผลงานสู่ ผู้รอคอย
ณ.วันนี้ ชีวิตมี ความพร้อมแล้ว
ด้วยฉัตรแก้ว กั้นเกษ เกียรติศักดิ์ศรี
อีกลูกรัก ทั้งสาม เป็นคนดี
ก็เท่านี้ แหละชีวี ที่ต้องการ
ทั้งพ่อลูก ชะโลมใจ ให้แม่อยู่
ช่วยกันสู้ อุปสรรคพ่าย ให้เชื่อมั่น
หากวันใด รังเกียจแม่ จงบอกพลัน
ก็คือวัน แม่จากจร ไม่ย้อนคืน
เกิดเป็นมนุษย์
เกิดเป็นมนุษย์ ได้เพราะบุญ หนุนนำเกิด
ให้ประเสริฐ กว่าสรรพสัตว์ เห็นชัดได้
คิดวางแผน ได้แยบยล เหนือสัตว์ใด
สร้างสรรค์ให้ วิวัฒนา กว่าบรรพกาล
แต่มนุษย์ ก็ยังเวียน ตายแล้วเกิด
จะประเสริฐ เลิศกว่าสัตว์ นั่นสงสัย
ด้วยบาปบุญ ที่ผลิต ติดตัวไว้
จัดสรรให้ เกิดตามกรรม ที่ทำมา
โอกาสนี้ ดีได้เกิด เป็นมนุษย์
ใช้กลยุทธ์ พุทธวิธี ที่มาดมั่น
พาหลุดพ้น กงกรรมเก่า เฝ้าเพียรกัน
ดั่งนิพพาน สราญแท้ แก้ทุกข์เอย
วันเวลาที่ผันผ่าน
วันเวลาที่ผันผ่าน
ประสบการณ์ให้ความรู้
ทำให้ฉันได้คุณครู
ที่มีอยู่ทุกแห่งหน
จะน้อยใจทำไมเล่า
เพราะความเขลาและสับสน
มุ่งเก็บเกี่ยวอย่างอดทน
ปัญญาตนย่อมเฟื่องฟู
เกมชีวิตแม้ติดขัด
เร่งขจัดอย่างสุดกู่
ด้วยความดีที่เชิดชู
เหล่าวิญญูฯยกย่องเอย
คืนวันก็ผันผ่าน
คืนวันก็ผันผ่าน ประสบการณ์ก็เพิ่มพูน
โลกนี้ก็จำรูญ ด้วยสมองและสองมือ
อย่าปล่อยวันให้ผ่านเปล่า วิบากเราเป็นอย่างไร
เมื่อจรจากโลกนี้ไป หากเกิดใหม่ได้พัฒนา
จะสุขจะเศร้าเราต้องจาก จะพบจะพรากต้องจากลา
สัจจธรรมแห่งชีวา โอ้ระอาผวาระทม
ตัดใจเพื่อจรจาก ขุดรากจากโศกตรม
ใช้สติจับอารมณ์ ข่มอาวรณ์ก่อนจะบรรลัย
วังวนในชีวิต เพียรลิขิตให้สดใส
เป็นเสบียงนำพาไป วิวัฏะได้ไม่อาดูร
ต้องเข้มแข็งต้องแข็งแกร่ง ต้องมีแรงต้องฟันฝ่า
ทั้งกิเลสและตัณหา ต้องตัดผ่าไม่เกื้อกูล
เส้นทางอริยชน พ้นหมองหม่นพ้นโสมม
คุ้มค่าน่าชื่นชม ได้รื่นอารมณ์ได้สมอุรา เอย
พรหมวิหาร
เมตตา คือ จะไม่ทำ ช้ำกายใจ
กรุณา ให้ คลายความทุกข์ สุขทั้งผอง
มุทิตา คุ้ม เมื่อเธอสุข สมใจปอง
อุเบกขา ครอง ศีลห้าครบ สงบสุขเอย
นี่คือความรักที่เรามีให้แก่กันและกันค่ะ
ผองน้ำเน่าเราขอลา
วนเรื่องหลัง ฝังใจ ไร้สาระ
พอเถอะนะ ใจช้ำ ระกำหมอง
คือน้ำเน่า เคล้าเหม็น กระเซ็นฟอง
แค่ละออง เข้านัยตา ยังพร่ามัว
อันเนื้อตัว เปื้อนแล้ว ขัดล้างได้
แต่เปื้อนใจ ไม่ขจัด เดี๋ยวกลัดหนอง
ล้างทั้งตา ล้างทั้งใจ ในครรลอง
เลิกหม่นหมอง ผองน้ำเน่า เราขอลา
ณ.วันนี้
ณ. วันนี้ โชคดีแล้ว ได้แคล้วคลาด
ความฉลาด บังเกิดบ้าง ห่างความเขลา
เจ็บซ้ำซาก ทั้งใจกาย คล้ายมึนเมา
เลิกทาสเศร้า เฝ้าทุกข์ซ้ำ ช้ำเกินพอ
อันนรก คนเป็นๆ เคยเห็นไหม
ใช้เตือนใจ ให้ระวัง ปฏักหนอ
มีโอกาส พลาดพลั้งตก นรกรอ
เดนคนก่อ ล่อให้หลง ลงอบาย
เพราะกุศล ผลจึงมี วันนี้อยู่
บุญอุ้มชู ให้ชีวี มีที่หมาย
ได้พ้นเวร ได้เว้นกรรม มารทำลาย
เบาสบาย หลายปัญหา พาบรรเทา
ความสุขใจ ให้หลงเพลิน อาจเลินเล่อ
ปล่อยใจเผลอ กิเลสผลาญ พาลอับเฉา
ต้องขวนขวาย หายใจรู้ ดูจิตเอา
รีบขัดเกลา โลภโกรธหลง ตรงนิพพาน
เพื่อที่รัก
เกิดทำไม เกิดเพื่อใคร อะไรเกิด
แสนประเสริฐ ที่ได้เกิด เป็นคนใหม่
เสริมกุศล พัฒนาตน ฝึกฝนใจ
นำพาให้ พ้นอบาย ในฐานคน
ได้สิทธิ์ใช้ ความเป็นคน ตามวาระ
สร้างฐานะ หาวัตถุ สู้ขันแข่ง
แล้วอวดโก้ โชว์สมบัติ อันแสนแพง
กล้าตะแบง บ้าอำนาจ ฟาดหัวคน
ยังมีเงิน ก็ยังมี คนก้มหัว
ทำความชั่ว มั่วว่าดี มีคนขาน
ยามเงินหมด อดีตเล่า เขาประจาน
เสื่อมสังขาร อำนาจสิ้น หมดชิ้นดี
เตรียมกายใจ อย่างไร ไม่เคยคิด
ขัดเกลาจิต อย่างไร ไม่เคยสน
ฝึกเรียนรู้ อย่างไร ไม่เคยทน
เคยเจ็บ-จน อย่างไร ไม่เคยจำ
ยังหลงเหลิง เกียรติกามกิน ติดตัณหา
เพียงศีลห้า จนปัญญา พัฒนาจิต
เกิดตายเปล่า หนึ่งชาติ ที่สิ้นคิด
วนเวียนติด สะสมบาป ตราบสิ้นลม
เพื่อตนเอง
ชีวิตเปรียบ ดั่งโลก ที่หมุนมา
ปะทะพา ดวงจิต คิดหมองเศร้า
ความทุกข์ท้อ ต่อสุขท้น ปนคลุกเคล้า
แสนอับเฉา คราวระทม ขมขื่นใจ
ลงหลักปัก แน่วแน่ ไม่แส่หา
เรื่องยังมา ให้ต้องแก้ ต้องหวั่นไหว
เรียนธรรมะ เพื่อประจักษ์ ที่หนักใจ
ด้วยอาลัย ในหวงห่วง บ่วงผูกพัน
เพียรทำใจ ให้สดใส ให้เข้มแข็ง
ทนความแรง เหล่าอมิตร พิชิตขวัญ
เมื่อจิตนิ่ง สงบสู้ รู้ปัจจุบัน
รู้เท่าทัน มันคือเงา เขลาเหลือทน
ทุกวันนี้ พอใจตาม ความเป็นอยู่
พร้อมปรับกู้ วิกฤติใหม่ เมื่อปรากฏ
จิตสว่าง กระจ่างธรรม นำอนาคต
จึ่งหมดจด จบแล้วจาก อย่างงดงาม
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557
สุขสันต์วันเกิด
อายุ ยืนยาว พร้อม ความสุข
มั่น คงใน ความดี อยู่เสมอ
ขวัญ ใจของ คนดี ห้อมล้อม
ยืน ยงยิ่ง สรรพสิ่ง มงคล
ปุถุชน
ความเป็นอยู่ ของปุถุชน คือคนบอด
อยากจะรอด พ้นจากทุกข์ คุกคามถึง
ขูดตัญหา ฆ่ากิเลส เหตุก้นบึ้ง
ฝึกลึกซึ้ง ถึงตอนจบ พบนิพพาน
โอฐภัย
โอฐภัย ไร้คุณธรรม ประจำจิต
ใช้ความคิด ริษยา มาเชือดเฉือน
ให้บาดจิต เจ็บช้ำ ไม่ลืมเลือน
เป็นเสมือน อันธพาล ผลาญผู้คน
ทำไมฉัน ต้องเจ็บช้ำ ระกำจิต
ปรุงความคิด ผิดคาดหวัง ยังฉงน
หลงกิเลส ติดตัญหา ฝ่าวังวน
ให้หลุดพ้น คนพาล ผลาญหัวใจ
วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ชมกล้วยไม้
ชมกล้วยไม้ ใช้เตือนใจ ว่าใกล้ม้วย
เคยบานสวย ช่วยเตือนสอน ตอนร่วงเสีย
พวงช่อดั่ง พลังจิต คิดจนเพลีย
เลิกละเหี่ย เตรียมพร้อมสรรพ ดับนิพพาน
ดุจโคมทอง ส่องสว่าง ทางนิพพาน
แม้กาพย์กลอน ไม่งดงาม ตามฉันทลักษณ์
แต่ใจภักดิ์ รักอักษร สุนทรสนาน
ได้ปลดเปลื้อง อารมณ์รื่น ได้ชื่นบาน
ได้เผาผลาน ประหารกิเลส เหตุระทม
ความในใจ ได้ระบาย ปลายดินสอ
บางครั้งท้อ บางครั้งทุกข์ คลุกขื่นขม
ดั่งน้ำเน่า ดั่งเรือนจำ ช้ำโศกตรม
ข่มอารมณ์ ไม่สิ้นหวัง ทางสุญญตา
อยากหลุดพ้น กงกรรมไป ไม่เกิดอีก
เพียรสร้างปีก ทวนกระแส แก้ตัณหา
ยังล้มลุก คลุกโทสะ โมหะพา
โลภะมา ปัญญาปรุง สะดุ้งใจ
ตั้งใจใหม่ ให้แน่วแน่ แพ้ไม่ได้
ชีวิตใกล้ หมดเวลา พาสยอง
เร่งฝึกจิต ศีลบริสุทธิ์ เป็นฐานรอง
ดุจโคมทอง ส่องสว่าง ทางนิพพาน