วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ที่บ้านเกิด

      ดั่งแพรวไหม...ใช้ทอผืน...กำมะหยี่
          พรมชั้นดี...ผลิใบอ่อน...อ้อนวัยใส
             พริ้วยอดหญ้า...คราลมพัด...ระบัดใบ
                ก็ซึ้งใจ...ลานดินดอน...ตอนน้ำลด
                คือริมคลอง...ในตลาด...ที่บ้านเกิด
            ยังบรรเจิด...ประทับจิต...มิต้องจด
        งามพิสุทธิ์...สดสะอาด...แสนงามงด
     ด้วยกำหนด...กฏสรรค์สร้าง...จากชั้นพรหม

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เค็มก็อม ขมก็กลืน

                     

                              เค็มก็อม ขมก็กลืน ชื่นชีวิต

                          ประหม่าจิต ปริศนา โลกาหนอ

                    สุขในหลง ปลดปลงแล้ว ยังเฝ้ารอ

                 ชาติหน้าหนอ ขอครองคู่ อยู่ด้วยกัน

                           สิ่งดีดี มีให้กัน นั้นหายาก

                       มีค่ามาก ดั่งรากฐาน การกุศล

                    อาจสืบมา แต่บรรพกาล บันดาลดล

                 พาหลุดพ้น ทุกข์นานา ผาสุขเอย

            

วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ข้อธรรมอำนวยพร

                  ด้วยข้อธรรม อำนวยพร เกิดกลอนนี้
                  จิตเปรมปรีย์ สัจจธรรม คำพระสอน
                  กลับให้น้อง พูนสุข ทุกข์จากจร
                  ดั่งคำพร ที่ส่งให้ สดใสเทอญ

แจ่มใสในพระธรรม

                     แจ่มใสใน พระธรรม ฉ่ำชื่นจิต
                     นำชีวิต สุขสันต์ และหรรษา
                     ด้วยสัจจธรรม ที่องค์ พระสัมมา
                     ชี้ทางพา พ้นทุกข์ สุขเพิ่มพูน

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กระป๋องเปล่า

               *กระป๋องเปล่า เขย่าไป ไม่มีเสียง
                 สรรพสำเนียง คำขาน ที่หวานหู
                 เปรียบคนด้อย น้อยค่า ไม่น่าดู
                 จึ่งหดหู่ ดิ้นรนหา ค่าของตน
               *ณ.วันหนึ่ง ซึ่งบาปเก่า บรรเทาบ้าง
                 บุญเคยสร้าง ได้เวลา ปรากฏเสียง
                 โหยมานาน ทะยานค่า หาใดเคียง
                 หลงในเสียง ว่าเลิศล้ำ ค้ำโลกา
               *ข้างในพร่อง กระป๋องดัง ฟังก็รู้
                 ผู้เต็มอยู่ เสียงสงบ จบแล้วหนอ
                 คนยังขาด ประกาศหรู ทำชูคอ
                 อนาถหนอ น่าสงสาร ประจานตน
                

กุฏีสงฆ์

                        สู่อิสระ เสรี กุฏีสงฆ์
                 อาจเสริมส่ง บารมี ถึงที่หมาย
                 สัปปายะ สละโลก โศกมลาย
           ลุจุดหมาย ได้นิพพาน ฉับพลันเทอญ

กราบหลวงพ่อ*

            กราบหลวงพ่อ ผู้ก่อเกื้อ เอื้อเฟื้อยิ่ง
               ขจัดสิ่ง มอมเมา เขลาทั้งหลาย
                  ให้รู้ตื่น คุณธรรม นำยกใจ
                      สังคมไทย ได้หลัก ประจักษ์จริง

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตเปรียบดั่งโลกที่หมุนมา

                  ชีวิตเปรียบ ดั่งโลก ที่หมุนมา
                ปะทะพา ดวงใจ ให้หมองเศร้า
                ความทุกข์ท้อ ต่อสุขท้น ปนคลุกเคล้า
                แสนอับเฉา คราวระทม ขมขื่นทรวง
                   ลงหลักปัก แน่วแน่ ไม่แส่หา
                เรื่องยังมา ให้ต้องแก้ ต้องหวั่นไหว
                เรียนธรรมะ เพื่อประจักษ์ ที่หนักใจ
                ด้วยอาลัย ในหวง ห่วงผูกพัน
                    เพียรทำใจ ให้สดใส ให้เข้มแข็ง
                ทนความแรง เหล่าอมิตร พิชิตขวัญ
                เมื่อจิตนิ่ง สงบสู้ รู้ปัจจุบัน
                รู้เท่าทัน มันคือเงา เขลาเหลือทน
                   ทุกวันนี้ พอใจตาม ความเป็นอยู่
                พร้อมปรับกู้ วิกฤตใหม่ เมื่อปรากฏ
                จิตสว่าง กระจ่างธรรม นำอนาคต
                จึ่งหมดจด จบแล้วจาก อย่างงดงาม

แจ้งสัจจธรรม

                           ทุกข์ประจำ ในโลก ว่าโศกแล้ว

                            ยังไม่แคล้ว ทุกข์จร อาวรณ์หา

                            ต่อเมื่อแจ้ง สัจจธรรม พระสัมมา

                             ตั้งสัจจา อำลา วัฏฏะวน

คานธีคานธรรม

               วันคานธี คานธรรม ค้ำจุนโลก
               พาหลุดพ้น วิปโยค โศลกหลาย
               ให้ได้ใช้ เตือนตน พาพ้นอบาย
               คุณมากมาย น้อมก้ม ประนมกร

ลูกหมาน่ารัก

               "ข้ามถนน หนทาง อย่าวางใจ
               จงจำไว้ ในคำ แม่พร่ำสอน
               สะพานลอย คอยช่วย ไม่ม้วยมร
               พึงสังวรณ์ สะท้อนใจ ไว้ให้ดี"
                   เจ้าลูกหมา น่ารัก ฟังแม่สอน
                กลัวม้วยมร ใจสั่น ครั่นคร้ามจิต
                เหลียวมองขวา มองซ้าย หลายความคิด
                ขอใช้สิทธิ์ ปีนบันได โล่งใจเอย

                         

ดอกหญ้าเอย

               ดอกหญ้าเอย เคยพริ้ว ริ้วระรอก
             โอนเอนหยอก เงาระบัด ตะวันฉาย
             ช่วยคลุมดิน ให้ชุ่มชื้น กว่าผืนทราย
               น่าใจหาย ถ้าไม่เห็น เจ้าเช่นเคย

นกกระเรียน

                 อายุยืน ยิ่งกว่า นกกระเรียน
               ยิ่งพากเพียร กิจการ ดั่งดั้นเมฆ
             สุขภาพกาย และจิต ฟิตชั้นเอก
           เทพเจ้าเศก ให้ชื่อก้อง เกียรติเกริกไกร